6 ขั้นตอน การออกแบบตกแต่งภายในที่ผู้ว่าจ้างควรรู้

การปลูกสร้างบ้าน หรือสร้างอาคารสำนักงานต่าง ๆ งานออกแบบตกแต่งภายใน หรือออกแบบอินทีเรียร์ คือขั้นตอนสุดท้ายของงาน ที่การตกแต่งจะให้ความสำคัญกับเรื่องของประโยชน์ใช้สอยและความสวยงามเป็นสำคัญ การเลือกบริษัทรับออกแบบที่มีประสบการณ์และมี Interior-Designer ที่มีทักษะความสามารถ จะทำงานตามขั้นตอนเพื่อให้ผลงานการออกแบบนั้น ๆ มีคุณภาพมากที่สุด

6 ขั้นตอน การออกแบบตกแต่งภายในที่ผู้ว่าจ้างควรรู้

คำว่า Interior หรือ Interior-Designer คือ มัณฑนากร ที่ทำหน้าที่ออกแบบตกแต่งภายในอาคาร หรือสถานที่ต่าง ๆ รวมไปถึงการออกแบบผลิตภัณฑ์โดยการนำความรู้ และความคิดในด้านศิลปะ การออกแบบ การผลิตและการตลาดมาผสมผสานเข้าด้วยกัน ซึ่งมัณฑนากรหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ออกแบบอินทรีเรียร์ จะต้องดำเนินงานโดยการกำหนดรายละเอียดของส่วนประกอบ จัดวางแผนผังของแบบ รวมทั้งควบคุมดูแลการทำงานของช่างตกแต่งภายใน อาคาร บ้านพักอาศัย พื้นที่จัดแสดงสินค้าและนิทรรศการต่าง ๆ รวมไปถึงการจัดภายในตู้แสดงสินค้าของห้างสรรพสินค้าให้สวยสมบูรณ์แบบมากที่สุด โดยหลักการทำงานแบ่งออกเป็น 6 ขั้นตอน ได้แก่

1. การให้คำแนะนำปรึกษาและขอข้อมูล

ขั้นตอนแรกของบริษัทรับออกแบบอินทรีเรียร์ ในการให้บริการลูกค้า หากเป็นบริษัทที่ให้บริการมานาน มีประสบการณ์และมีทีมงานระดับมืออาชีพ เมื่อได้รับการติดต่อจากลูกค้าหรือผุ้ว่าจ้าง จะพูดคุยให้คำปรึกษาเกี่ยวกับออกแบบตกแต่งในด้านต่าง ๆ ตามที่ลูกค้าต้องการทราบอย่างละเอียด รวมทั้งค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เมื่อเข้าใจสิ่งที่ลูกค้าต้องการหรือรู้วัตถุประสงค์ของงานออกแบบ ก็จะขอข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการออกแบบเพื่อวางแผนงานหรือประเมินค่าใช้จ่าย

2. ขั้นตอนการนำเสนอแนวคิดเพื่อการออกแบบขั้นต้น

ขั้นตอนนี้เมื่อบริษัทรับออกแบบ หรือออกแบบอินทรีเรียร์ ได้รับข้อมูลจากลูกค้าแล้ว จะต้องออกแบบและวางผังตามรูปแบบให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าซึ่งส่วนมากเพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจ นักออกแบบจะนำนิตยสาร หรือออกแบบด้วยภาพวาด 2 มิติ 3 มิติหรือหากเป็นโครงการใหญ่ ๆ อาจนำเสนอด้วยการออกแบบที่เป็นภาพเคลื่อนไหวที่มีความสมจริงให้ลุกค้าพิจารณา

3. ขั้นตอนในการพัฒนาปรับแก้แบบร่างครั้งแรก

เป็นขั้นตอนที่หลังจากนักออกแบบหรือออกแบบอินทรีเรียร์ ได้นำเสนอแบบร่างให้ลูกค้าพิจารณาแล้ว ขั้นตอนนี้ลูกค้าจะสามารถขอปรับหรือแก้ไขรูปแบบของงานได้ ซึ่งแต่ละบริษัทอาจมีเงื่อนไขแตกต่างกัน เช่น จำนวนครั้งในการขอปรับแก้นั้นสามารถทำได้ไม่เกิน 2 ครั้งหรือมีเงื่อนไขอื่น ๆ ตามที่ตกลงกันไว้

4. การพัฒนาแบบร่างขั้นสุดท้าย

ขั้นตอนนี้เป็นการพัฒนาหรือปรับแก้ไขแบบร่างการออกแบบตกแต่งภายในตามคำแนะนำของลูกค้าหรือผู้ว่าจ้าง และเป็นการปรับแก้ครั้งสุดท้าย สำหรับขั้นตอนนี้ออกแบบอินทรีเรียร์จะทำการพัฒนาแบบร่างจากการออกแบบที่ได้ผ่านการอนุมัติจากแบบร่างขั้นต้นมาแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการแก้ไขเพียงเล็กน้อยเพื่อให้งานออกแบบสมบูรณ์ที่สุด

5. ขั้นตอนการกำหนดวัสดุสำหรับตกแต่งภายใน

เมื่อแบบร่างงานออกแบบตแต่งภายในสมบูรณ์พร้อมที่จะนำไปใช้ ก็จะเป็นขั้นตอนการกำหนดวัสดุที่จะนำมาใช้ในการตกแต่งทั้งหมดให้ลูกค้าได้พิจารณา โดยนักออกแบบจะอ้างอิงจากงานแบบร่างขั้นสุดท้ายที่ได้ผ่านการการอนุมัติมาแล้ว เพื่อจัดทำรูปแบบนำเสนอให้ลูกค้าได้ทำการพิจารณาเปรียบเทียบวัสดุ จากนั้นนักออกแบบจึงจะสามารถดำเนินการในขั้นตอนสุดท้ายคือขั้นตอนการเขียนแบบรายละเอียดต่อไป

6. ขั้นตอนของการเขียนแบบรายละเอียด

ขั้นตอนนี้คือการที่ออกแบบอินทรีเรียร์จะเขียนแบบรายละเอียด และทำการพิมพ์แบบฉบับร่างออกมาเพื่อนำเสนอให้ลูกค้าได้พิจารณารายละเอียดทั้งหมดของงานโดยที่ลูกค้าสามารถขอปรับแก้รายละเอียดในแบบกับนักออกแบบได้ และเมื่อแก้ไขแบบรายละเอียดฉบับร่างได้ตรงตามที่ต้องการแล้ว ออกแบบอินทรีเรียร์จะทำการพิมพ์แบบรายละเอียดฉบับจริงต่อไป

สำหรับการออกแบบตกแต่งภายในทั้ง 6 ขั้นตอน หากผู้ว่าจ้างมีความรู้ขั้นตอนการทำงานของ ออกแบบอินทรีเรียร์อย่าเข้าใจก็จะเป็นประโยชน์ในการติดต่อบริษัทรับออกแบบที่เป็นมืออาชีพได้ง่ายและทำให้ผลงานการออกแบบตรงตามความต้องการได้มากที่สุด